แชมป์รายการแรกในชีวิตของ กิลเบิร์ต ในเวิลด์แรงค์กิ้ง

ปิดฉากลงไปแล้ว สำหรับสนุกเกอร์แชมเปี้ยนชิพลีก 2021(2) ที่มอนิ่งไซด์อารีน่า เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา

    ปรากฏว่า แชมป์รายการนี้ ตกเป็นของ “ดิแองกรีฟาร์เมอร์” เดวิด กิลเบิร์ต นักสอยคิวมือ 23 ของโลกจากอังกฤษ หลังจากรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ มาร์ค อัลเลน มือ 12 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือไปได้ 3-1 เฟรม คว้าเงินรางวัลทั้งสิ้น 33,000 ปอนด์(ประมาณ 1,500,000 บาท)

    เงินรางวัลดังกล่าว เป็นยอดที่สะสมมาตั้งแต่รอบแรก ประกอบด้วย การเป็นแชมป์กลุ่มในรอบแรกได้รับ 3,000 ปอนด์, แชมป์กลุ่มในรอบที่ 2 จำนวน 4,000 ปอนด์, แชมป์กลุ่มรอบที่ 3 อีก 6,000 ปอนด์ และการคว้าชัยในรอบชิงชนะเลิศอีก 20,000 ปอนด์    แม้จะเป็นรายการที่มียอดเงินรางวัลและคะแนนสะสมไม่สูงมากนัก จนนักสอยคิวบางคนตัดสินใจถอนตัวไม่ลงแข่งขัน 

ทว่าการคว้าแชมป์รายการนี้ นับมีความหมายอย่างมากต่อ เดวิด กิลเบิร์ต เนื่องจากมันคือแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งรายการแรกของเจ้าตัว นับตั้งแต่ลงแข่งขันเทิร์นโปรเล่นสนุกเกอร์อาชีพโลกเมื่อ 19 ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี 2002

    พร้อมกับทำให้นักสอยคิววัย 40 ปีผู้นี้ ปลดล็อกได้เสียที หลังอาภัพไร้แชมป์รายการเก็บสะสมคะแนนมาอย่างยาวนาน ทั้งๆที่มีโอกาสฉลองโทรฟี่แชมป์ก่อนหน้านี้ถึง 4 ครั้ง แต่อกหักได้รองแชมป์ทั้งหมด

    ไม่ว่าจะเป็นศึกอินเตอร์เนชั่นแนลแชมเปี้ยนชิพ 2015, เวิลด์โอเพ่น 2018, เยอรมันมาสเตอร์ส 2019 และอิงลิชโอเพ่น 2019

    หากแฟนสนุกเกอร์ยังจำกันได้ ในศึกเวิลด์โอเพ่น 2018 ณ โรงเรียนยู่ฉานนัมเบอร์วันมิดเดิล ณ เมืองยู่ฉาน มณฑลเจียงซี ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมปี 2018 กิลเบิร์ต เกือบจะผงาดคว้าแชมป์มาครองอยู่แล้ว หลังในรอบชิงชนะเลิศ ขึ้นแท่นนำถึง 9-5 เฟรม

 อีกทั้งยังทำให้เจ้าตัว คว้าสิทธิ์ลงประชันคิวในรายการใหญ่อย่างศึกแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยนส์ 2021 ระหว่างวันที่ 15-21 พฤศจิกายนนี้ ณ เมืองโบลตัน ประเทศอังกฤษ นับเป็นครั้งที่ 2 ของเขา ต่อจากปีก่อน ที่ได้ตั๋วลงบรรเลงเพลงคิวในศึกแชมป์เหนือแชมป์ ในฐานะที่มีอันดับโลกดีที่สุด 3 อันดับ

    ด้าน “เดอพิสตอล” มาร์ค อัลเลน รองแชมป์ครั้งนี้ พลาดโอกาสคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงกิ้ง เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีอย่างน่าเสียดาย โดยแชมป์เวิลด์แรงกิ้ง โทรฟี่สุดท้ายของเขา ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 กับแชมป์สกอตติชโอเพ่น 2018

    ก่อนดวลคิวในรอบชิง อัลเลน มีผลงานที่ร้อนแรงมาก หลังจากไม่แพ้ใครเลยในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 รอบ แถมยังกดเซ็นจูรี่เบรกได้มากที่สุดของทัวร์นาเมนต์ จากการตบไม้เดียว 100 แต้มขึ้นถึง 10 ครั้ง 

    แถม 1 ในนั้นเกือบเป็นแม็กซิมั่มเบรกอีกด้วย หลังจากกดไป 146 แต้ม ในรอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 3 กับ ไคเรน วิลสัน มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ในศึกแชมเปี้ยนชิพลีก 2021(2) ไม่มีเงินรางวัลให้กับผู้ที่ทำเบรกสูงสุด 

    การคว้ารองแชมป์คราวนี้ ได้ทำให้ อัลเลน คว้าเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 23,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1,060,000 บาท แบ่งเป็นการคว้าแชมป์ในรอบแรก 3,000 ปอนด์, แชมป์รอบ 2 จำนวน 4,000 ปอนด์, แชมป์รอบ 3 อีก 6,000 ปอนด์ และรองแชมป์ของทัวร์นาเมนต์ 10,000 ปอนด์