“ฮอว์ค” มั่นใจกลับมาลุ้นแชมป์ใหญ่ในปีนี้

Barry Hawkins watches on during his match against Shaun Murphy during day four of the Dafabet Masters at Alexandra Palace, London. PRESS ASSOCIATION Photo. Picture date: Wednesday January 18, 2017.. See PA story SNOOKER Masters. Photo credit should read: John Walton/PA Wire
แบร์รี่ ฮอว์กิ้นส์ เผย กลับมามั่นใจว่าจะกลับมาลุ้นคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง จากผลงานน่าพอใจช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วฮอว์กิ้นส์ เคยหลุดจาก 16 อันดับแรกของโลกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้อดลงเล่นเดอะมาสเตอร์ส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 แต่การเข้ารอบรองชนะเลิศเยอรมัน มาสเตอร์ส กับ ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ ส่งให้เขาได้เข้าไปเล่นในครูซิเบิ้ล “หากมีใครมาบอกว่าผมจะกลับไปอยู่ 1 ใน 16 อันดับแรกแล้วได้เข้าไปเล่นที่ครูซิเบิ้ลเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผมคงหักแขนหมอนั่นเพราะเหมือนมาเยาะเย้ย แต่ผมก็ทำสำเร็จจริงๆ นับเป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับผม มันอาจจะเป็นปีที่ทุกคนต้องลำบาก แต่ผมก็โชคดีที่ได้กลับมาฝึกซ้อมและลงแข่ง ซึ่งผมก็ซ้อมหนักและมีความอยากกลับสู่ 16 อันดับแรกเป็นแรงกระตุ้น” ทั้งที่มีผลงานอันแข็งแกร่ง แต่ฮอว์กิ้นส์ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ที่ทำให้ใจแทบสลาย เริ่มจากแพ้ จัดด์ ทรัมป์ 5-6 ทั้งที่นำห่าง 5-1 ในเยอรมัน มาสเตอร์ส ส่วนในทัวร์แชมเปี้ยนชิพ ก็แพ้รอนนี่ โอซัลลิแวน 9-10 ทั้งที่ขึ้นแท่นนำ 9-6 เฟรม “ผมรู้สึกว่า ผมพลาดแบบน่าเขกกะโหลกเอง เกมกับจัดด์ ผมคิดว่าผมน่าจะชนะได้ แต่เขาก็กลับมาได้ด้วยช็อตมหัศจรรย์ ซึ่งที่จริงเขาก็ชอบโชว์ช็อตว้าวๆ ให้แฟนๆ ได้ดูอยู่แล้ว
โดยเฉพาะแมตช์ที่ออกทีวีด้วย แต่นี่มันเป็นสถานการณ์ที่เขาตามหลัง แต่ก็ยังทำมันได้ (แทงเขียวอย่างแรงสกรูขาวอยู่ในตำแหน่งที่กินน้ำตาล) ขนาดผมยังหลุดขำกับการเล่นของเขา แล้วก็พลิกเกมกลับมาชนะ” “ส่วนแมตช์ที่แพ้รอนนี่ ผมว่าผมคุมเกมได้หมดแล้ว แต่การพลาดลูกแดงลูกเดียวมันเปลี่ยนชีวิตไปเลย” “ผมรู้สึกได้ว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วผมกลับมามั่นใจที่จะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ซึ่งมันไม่เป็นอย่างนั้นมาพักใหญ่ๆ ผมก้มหน้าก้มตาเล่นแล้วความเชื่อมั่นก็เพิ่มขึ้น ผมอาจจะไม่ได้แชมป์อะไรอีกเลยจนเลิกเล่น แต่อย่างน้อยผมก็เชื่อมั่นว่าหากทำได้ดีพอก็มีโอกาสลุ้นแชมป์กับเขาเหมือนกัน” โชคร้ายที่กำลังจะหายไปอีกอย่างของฮอว์กิ้นส์ คือ อุบัติเหตุที่เกิดกับแฮร์ริสัน ลูกชายของเขา “แฮร์ริสัน ขาหักแบบรุนแรง ต้องใช้เวลารักษาเกือบ 4 เดือน สวมเฝือกสูงขึ้นมาจนเกือบถึงขาหนีบ ทั้งๆ ที่เรากำลังวางแผนไปพักผ่อนหลังจากเขาปิดเทอม แต่ตอนนี้เขาใกล้หายแล้ว กำลังทำกายภาพบำบัด ซึ่งหากพูดจริงๆ แล้วคงใช้เวลาอีก 2-3 ปีที่จะกลับมาเป็นปรกติจริงๆ”