“ยาน ปิงเถา” ผงาดคว้าแชมป์สอยคิว เดอะมาสเตอร์

มังกรจีนผงาด “ยาน ปิงเถา” นักสอยคิววัย 20 ตำนานคนใหม่ของจีน คว่ำเสือเฒ่าอดีตแชมป์โลก “จอนห์ ฮิกกินส์” 10-8 เฟรม คว้าแชมป์สนุกเกอร์รายการโลก “เดอะ มาสเตอร์” คนที่สองของจีนต่อจาก “ดิง จินฮุย”
ศึกสนุกเกอร์โลกรายการ “เดอะ มาสเตอส์” รายการใหญ่ที่ยาวนานที่สุดรองจาก ชิงแชมป์โลก ชิงรางวัลในปีนี้ 725,000 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยรวมแล้วเกือบ 30 ล้านบาท โดยแชมป์รับไปคนเดียว 250,000 ปอนด์ หรือกว่า 10 ล้านบาทเลย แข่งขันที่ มาร์แชล อารีนา เมืองมิลตัน คีน ประเทศอังกฤษ เช้ามืดวันที่ 18 ม.ค. เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง “จอนห์ ฮิกกินส์” อดีตแชมป์โลกและแชมป์รายการนี้ 2 สมัย ปัจจุบันเป็นมือ 7 โลก พบ “ย่าน ปิงเถา” มังกรอันตรายวัย 20 ปัจจุบันมือ 11 ของโลก
รอบชิงชนะเลิศ แข่งระบบ 10 ใน 19 เฟรม ถือเป็นคู่ชิงมีอายุห่างกันมากที่สุด และประสบการณ์ในรายการนี้ห่างกันมากที่สุด เพราะคู่นี้อายุห่างกันถึง 25 ปี อีกทั้ง ฮิกกิ้นส์ ลงแข่งมาสเตอร์ส เป็นปีที่ 27 ติดต่อกัน ส่วนย่านลงแข่งครั้งแรก อีกทั้งตอนที่ฮิกกิ้นส์ ลงแข่งมาสเตอร์ส ครั้งแรกเมื่อปี 1995 ย่านยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ส่วนสถิติการพบกันล่าสุด ย่าน เป็นฝ่ายชนะทั้งสองครั้ง คือชนะ 6-3 ในรอบ 8 คน ยูเค แชมเปี้ยนชิพ ปี 2019 และชนะ 5-2 ในรอบ 8 คน เวลช์ โอเพ่น 2020
การแข่งขันครั้งนี้ ฮิกกิ้นส์ อดีตแชมป์โลก 4 สมัย เข้าชิงมาสเตอร์ส เป็นครั้งที่ 5 ในรอบรองชนะเลิศเอาชนะ เดวิด กิลเบิร์ต 6-4 เฟรม ส่วน ย่าน ปิงเถา เฉือน สจ๊วต บิงแฮม มา 6-5 เฟรม กลายเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้เข้าชิงชนะเลิศมาสเตอร์ส เปิดฉากเฟรมแรก ย่าน ออกนำก่อน 1-1 ก่อนถูกเสือเฒ่าตีเสมอทันควัน รูปเกมเบียนกันตลอดจนเบรกช่วงแรก เสมอกัน 2-2 อย่างไรก็ตามในช่วงเซสชั่นแรก ฮิกกิ้นส์ นำไปก่อน 5-4 เฟรม
กลับมาสู้กันต่อในเซสชั่นสอง สองฝ่ายพลัดกันพลาดและเป็นฝั่งของ ย่าน ปิงเถา ที่ได้ความสด ตีเสมอเป็น 5-5 เฟรม จากนั้นผลัดกันตามและนำจนเสมอที่ 8-8 สองเฟรมต่อมา ย่าน ปิงเถา ฉายฟอร์มมังกรอนาคตไกลทำแต้มเก็บสองเฟรมรวดแซงเข้าป้ายไปในที่สุด 10-8 เฟรม กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด ที่คว้าแชมป์ เดอะมาสเตอร์ส ได้นับตั้งแต่ โอซัลลิแวนทำมาได้ในปี 1995 ขณะอายุเพียง 19 ปี และเป็นผู้เล่นคนที่สองของเอเชียที่สามารถคว้าแชมป์หนึ่งในรายการทริปเปิ้ลคราวน์ ต่อจาก ติง จินฮุย พร้อมรับเงิน 250,000 ปอนด์ หรือกว่า 10 ล้านบาท ส่วนรองแชมป์รับไป 100,000 ปอนด์ หรือราว 4 ล้านบาท